วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

7สิ่งมหัศจรรย์ของโลก(ยุคโบราณ)


ยุคสมัยโบราณ
อายุ ตั้งแต่ 5,000 ปี ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 500 ประมวลและจัดโดยนักปราชญ์กรีก ชื่อ แอนติเพเตอร์ (Antipater) แห่งไซดอน (Sidon) ในศตวรรษที่สองก่อนคริสตศักราช


1. พีระมิดแห่งเมืองกิซ่า (The Great Pyramids of Giza)


ประเทศอียิปต์ ทวีปเอเชีย


เป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์อียิปต์ในสมัยโบราณ ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ห่างไปทางตอนใต้ของเมืองอเลกซานเดรีย ประมาณ 160 กิโลเมตร สร้างด้วยหินเป็นรูปกรวยเหลี่ยม เมื่อประมาณ 3500 ปี ก่อนคริสตกาล กินเนื้อที่ในบริเวณพีระมิด 131 เอเคอร์ พีระมิดนี้ สูงถึง 147 เมตร ฐานกว้างด้านละ 230 เมตร ใช้ก้อนหินในการก่อสร้าง 2500000 ก้อน หนักก้อนละ 2 ตันครึ่ง บางก้อนหนักถึง 16 ตัน รวมน้ำหนักกว่า 6,000,000 ตัน มีการเตรียมการสร้างถึง 10 ปี ใช้กรรมกรก่อสร้างประมาณ 100000 คน มาใช้แรงงานถึง 20 ปี เพื่อสร้างพีระมิดดังกล่าวให้สำเร็จจนลุล่วง ปัจจุบันส่วนยอดของพีระมิดทรุดโทรมลงจนมีความสูงเพียง 137 เมตร





2. สวนลอยแห่งกรุงบาบิโลน (The Hanging Gardens of Babylon)

ประเทศอีรัก ทวีปเอเชีย

สวนลอยแห่งกรุงบาบิโลนนี้ กินเนื้อที่ 4 เอเคอร์สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 63 โดยพระเจ้าเนบูชาดเนสซาร์ที่ 2 กษัตริย์แห่งเปอร์เซียหลังจากการพิชิตปราบปรามเมืองใกล้เคียงมาอยู่ในอำนาจ แล้วก็กวาดต้อนประชาชนพลเมือง มาใช้เป็นทาสให้สร้างสวนลอยนี้ขึ้นบนทะเลทราย มีกำแพงดินกั้นล้อมรอบและประกอบด้วยลานกว้างๆเป็นหลายๆส่วนบนพื้นที่โค้ง มีความสูงมากและปลูกต้นไม้ ดอกไม้สีสันสดใสสร้างสระน้ำสีต่างๆทำน้ำตก น้ำพุ โดยทำท่อเอาน้ำมาจากลุ่มแม่น้ำยูเฟตีส สวนลอยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประพาส หย่อนพระทัยของพระมเหสีเซมีรามีส


3. วิหารไดอานา(อาร์เทมีส) (The Temple of Artemis at Ephesus)

ประเทศตุรกี ทวีปเอเซีย+ยุโรป

สร้างขึ้นโดยชาวเอฟฟิเซียนด้วยฝีมือของบรรดาสถาปัตย์กรีกผู้มีชื่อเสียง ซึ่งสร้างได้งามวิจิตรพิสดารมากทั้งนี้เพื่อเป็นที่ระลึกถึง อาร์เทมิส ผู้มาจากสวรรค์ผู้ที่ได้ช่วยกู้ความหายนะของเมืองไว้ได้ถึง 2 ครั้ง เมื่อศตวรรษที่ 5 ก่อนคริศตกาล ยาวถึง 425 ฟุต กว้าง 225 ฟุต มีเสาหินอ่อนรวม 127 ต้น แต่ละต้นสูง 60 ฟุต หลังคาใช้กระเบื้องหินอ่อน ส่วนประตูประดับประดาไปด้วยงาช้างและทองคำ




4. สุสานของกษัตริย์มอโซลอส (The Mausoleum at Halicarnassus)
ประเทศอิหร่าน ทวีปเอเชี


สุสานของมอโซลุสหรือสถานที่เก็บพระศพของพระเจ้ามอโซลุสกษัตริย์แห่งเอเซียไมเนอร์ ซึ่งพระนางเตมีเซีย บรมราชินีได้ขึ้นครองราชย์ ต่อจากพระราชสวามีและได้เป็นผู้สร้างขึ้นไว้เพื่อเป็นที่ฝังพระศพของพระราชสวามี ที่เมืองซาเรีย (เมืองฮาลคาร์นาซัสในปัจจุบัน)โดยใช้ช่างออกแบบ ฟิดิอัส ซาติรัส บรายอาซีส สโคปาส ทิโมทิอัส ที่มีชื่อเสียง ฝีมือเยี่ยมในกรีก ทั้งหมดมาช่วยกันสร้างด้วยหินอ่อน แต่ยังไม่ทันสร้างเสร็จพระนางก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน สร้างเมื่อประมาณ 352 ปีก่อนคริสตกาล มีความสูง 140 ฟุต วัดฐานโดยรอบยาว 111 ฟุต แบ่งเป็น 5 ชั้น บนยอดมีรูปปั้นมอโซลุส ประทับบนราชรถเทียมด้วยม้า




5. เทวรูปซีอุส (The Statue of Zeus at Olympia)
ประเทศกรีซ ทวีปยุโรป

เทวรูปซีอูส ตั้งอยู่ในวิหารโอลิมเปีย ประเทศกรีก เป็นเทวรูปของ ซีอูส ลักษณะประทับอยู่บนบัลลังก์ทอง ซึ่งแกะสลักโดยช่างที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นมีชื่อว่า ฟีดีอัส ประมาณศตวรรษที่ 5 โดยกล่าวกันว่า ตัวเทพซีอูส แกะสลักด้วยงาช้าง สูง 40 ฟุต พระหัตถ์ซ้ายทรงคธา พระหัตถ์ขวารองรับรูปปั้นแห่งชัยชนะ มีเครื่องประดับกายทำด้วยทองคำล้วนๆ นับว่าเป็นเทวรูปแกะสลักที่ใหญ่ที่สุดและถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชา ของชาวกรีก


6. เทวรูปเฮลิออส (The Colossus of Rhodes)
ประเทศกรีซ ทวีปยุโรป

เป็นรูปสำริดขนาดใหญ่ของพระอาทิตย์หรือรูปหล่อของพระเจ้าอปอลโล หล่อด้วยทองบรอนซ์ ในท่ายืน สูง 100 ฟุตโดยเฉพาะฐานที่รองรับรูปหล่อนั้นสูงกว่าตึก 5 ชั้น พระหัตถ์ขวาถือดวงประทีป ตั้งอยู่หน้าเมืองโรดส์ประเทศกรีก สร้างโดยกษัตริย์แชรัสแห่งลินดัส เชื่อกันว่าเป็นรูปปั้นที่คอยกั้นอ่าวของเกาะแห่งนี้ของกรีกในทะเลเอเจียน สร้างเสร็จหลังจากใช้เวลา 12 ปี แล้วเสร็จเมื่อประมาณ 280 ปีก่อนคริสตกาล และต้องพังทลายลง เพราะแผ่นดินไหว ถูกทอดทิ้งเป็นเวลา 900 ปี จึงถูกขายเป็นเศษเหล็ก ให้แก่ชาวเมืองซาราเซน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการสงคราม


7. ประภาคารฟาโรส (The Lighthouse of Alexandria)
ประเทศอียิปต์ ทวีปอัฟริกา

ประภาคารฟาห์โรห์ ตั้งอยู่บนเกาะฟาห์โรห์ในอ่าวหน้าเมืองอเลกซานเดรีย สร้างเมื่อประมาณ 280 ปี ก่อนคริสตกา โดยพระเจ้าปโตเลมีที่ 2 กษัตริย์แห่งประเทศอียิปต์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่สังเกตแก่ชาวเรือที่จะเข้าเมืองท่าอียิปต์ สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวสลักลวดลายวิจิตรงดงาม สูงประมาณ 400 ฟุต บนยอดมีตะเกียงจุดไฟแก๊สขนาดใหญ่ ในสมัยนั้นอียิปต์เป็นประเทศที่เจริญในวิทยาการต่างๆใครๆก็ชอบที่จะติดต่อทำการค้าด้วย เหตุนี้จึงต้องสร้างประภาคารขึ้นจุดตะเกียงแก๊สตลอดทั้งคืน เพื่อให้ผู้ที่ไม่เคยเดินเรือใช้เป็นที่สังเกตจะได้ไม่หลง นอกจากนั้นแล้ว ยังใช้เป็นหอคอยไว้ดูข้าศึกที่จะมารุกรานอีกด้วย หลังจากเกิดแผ่นดินไหว ประภาคารนี้ก็พังทลายลงมาตั้งแต่ ค.ศ. 955 และถูกทำลายโดยสมบูรณ์ในช่วงศตวรรษที่ 14

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

10 อันดับอาวุธสุดเเสบของอเมริกา

LRAD Weapon long range acoustic device คลื่นเสียงมหาบรรลัยหู เป็นเครื่องส่งคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความดังไปยังที่ที่ศัตรูที่ประจำอยู่ในระยะไกล อำนาจขนาดทำให้แก้วหูศัตรูแตก เป็นหูหนวกไปในทันที ล่าสุดสามารถพัฒนาให้สามารถกระแทกหัวใจทำให้หัวใจหยุดเต้นได้




Corner Shot 40 ปืนแบบกระสุนความเร็วสูง สามารถเอ็กซ์เรย์ได้ สามารถใช้เฝ้าตรวจสอบที่มืดๆ หาจุดที่จะขว้างระเบิดน้อยหน่าได้ นอกจากนี้ยังมีถังทรงกระบอกสามารถหมุนตัวถึง 63 องศา เหมาะสำหรับคนคำนวณเก่ง





Barrett M107 Rifle ปืนยาวดักยิงแบบเคลื่อนที่ ออกแบบคลาสสิก ดีกว่าปืนยาว M107 ในอดีต เหมาะสำหรับพายุทราย มีระยะหวังผล 1500 เมตร มีพลังทำลายล้างสูง






Metal Storm ปืนอัตโนมัติที่มีพลังทำลายมากที่สุดของโลกก็ว่าได้ รูปร่างคล้ายกองซ้อนกันเป็นรูปทรงกระบอก นอกจากกระสุนที่ยิงมาแบบห่าฝนยังมีส่วนผสมของผงเหล็กเพื่อเพิ่มการทำลายล้างไว้ด้วย






Thermobaric Bomb ระเบิดที่เหนือกว่าระเบิดนาปาล์ม เพราะมันคือระเบิดที่บรรจุเชื้อเพลิงที่สามารถระเบิดลุกเป็นกลุ่มไฟสุดร้อนแรง ไม่ว่าจะเป็นถ้ำในหลืบถ้ำ หรือแม้แต่ซอกซอยที่ซุ่มของสัตรู โดยมันทำงานอย่างเป็นระบบคือระบบแรกเป็นระเบิดทำลายที่กำบังและระบบที่สองคือเพลิงเผาซ้ำมีความร้อนสูงถึง 3000 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถหลอมละลายสรรพสิ่งให้เป็นจุณไปในพริบตา อย่าว่าคนเลย ปืนที่ใช้ก็โดนหลอมเป็นก้อนทันที


EMP Bomb (Episode: Future Shock) ผลิตโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลีย “ระเบิดแม่เหล็ก” วิถีมันสามารถไปทั่วทิศทาง โดยวงจรอิเล็กโทนิกของมันสามารถตรวจจับวัตถุที่อยู่ใกล้ๆ ได้ เช่น เรือ และเมื่อมันพบเป้าหมาย ด้วยอำนาจของแม่เหล็กสามารถเกาะและทำลายเป้าหมายในทันที




Airborne Laser เลเซอร์ติดเครื่องบิน โดยเลเซอร์นี้ประกอบด้วยโลหะไอโอดีนธาตุออกซิเจนสารเคมีที่ทรงพลังในการเอ็กซ์เรย์ (ประมาณว่าคล้ายประภาคาร) เหมาะสำหรับตรวจแหล่งสะสมอาวุธของศัตรู และถ้ามีการพัฒนาปรับปรุงจะสามารถให้สามารถจุดไฟระบิดเป้าหมายนั้นได้อีกด้วย




Excalibur ขีปอาวุธปืนใหญ่ล่าสุด เหมาะสำหรับยิงระยะไกลอย่างยิ่ง มีความแม่นยำ นอกจากนี้ภายในยังมีระเบิดลูกเล็กๆ อีก เมื่อถึงเป้าหมายมันจะปล่อยลูกเล็กๆ ออก เพื่อให้มันทำลายเป้าหมายเป็นวงกว้าง





Sensor Fuzed Weapon (Episode: The Power of Fear) ฉายามันคือ “ระเบิดตาพิทย์”บรรจุระเบิดขนาดย่อมที่มีอานุภาพสูงสามารถทำลายเกราะที่หุ้มรถถังทุกชนิดได้ภายใน 10 ลูก แถมแต่ละลูกมีร่มชูชีพติดอยู่พร้อมตาอินฟาเรดที่มีความไวสูงต่อเป้าหมายที่จะหล่อนระเบิดลงไปบนรถถังหุ้มเกราะของศัตรูและทำลายเกราะที่หุ้มและทหารที่อยู่ภายในเละในพริบตา



MOAB Bomb (Episode: The Power of Fear) ฉายาของมันคือ “มารดาระเบิด” โดยระเบิดนี้ใช้ระบบดาวเทียมในการติดตามถล่มเป้าหมาย ซึ่งเหนือกว่ารุ่นแรกคือเมื่อถึงเป้าหมาย มันจะระเบิดทันที แรงระเบิดของดินระเบิดขนาด 9,000 กก. จะล้างสรรพสิ่งให้วอดวายในพริบตา




วบที่มา http://atcloud.com/stories/38490